ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ทำได้บุกไปเอาชนะ ลิเวอร์พูล 1-0 รวมผล 2 นัด เสมอกัน 1-1 ต่อเวบาพิเศษก็เสมอกัน ก่อนที่ทางทัพ เลอ ปารีเชียง นั้นจะเด็ดขาดกว่าในการยิงจุดโทษเอาชนะไปได้  เข้าสู่รอบต่อไปในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมป์เปี้ยส์ลีก ได้สำเร็จ ซึ่งถือว่าเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมสำหรับทีมจาก ฝรั่งเศส ส่วนทาง ลิเวอร์พูล นั้นต้องตกรอบกลับไป แต่ก็ยังมีเกมสำคัญรออยู่ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ กับการลงสนามนัดชิงชนะเลิศ ศึก คาราบาว คัพ เจอกับทีม นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด นั่นเอง

ปารีสฯ สุดยอด บุกเฉือด เป็ด คาเล้า

ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีทสุดท้ายนัดที่สอง คู่ที่เป็นคู๋เอกเลยก็คือทาง ลิเวอร์พูล ที่เปิดรัง แอนฟิลด์ ของตัวเองนั้นต้อนรับการมาเยือนของทางทีม ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ทีมจ่าฝูงศึก ลีเอิง ฝรั่งเศส ซึ่งในเกมแรกที่ผ่านมานั้นทาง ลิเวอร์พูล ก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เมื่อบุกไปเอาชนะมาได้ก่อนที่สกอร์ 1-0 ทำให้เกมนี้กุมความได้เปรียบอยู่นิดๆ เรียกว่าเล่นแล้วขอแค่เสมอก็จะเข้าสู่รอบ 8 ทีม สุดท้ายได้ทันที ส่วนทาง ปารีสฯ เองนั้นก็ต้องมาเดินหน้าบุกใส่เพื่อยิงประตูให้ได้เท่านั้น

เกมนี้ทาง อาร์เน่ สล็อธ กุนซือของทีม ลิเวอร์พูล ยังคงจัดชุดใหญ่ลงสนามอย่างต่อเนื่อง ใช้ทาง โม ซาล่าห์,หลุยส์ ดิอาซ,ดิเอโก้ โชต้า เป็นสามประสานในแนวรุก ส่วนทาง อเล็กซิส แม็ค’อัลลิสเตอร์ คืนสู่ทีมแทนที่ของทาง เคอร์ติส โจนส์ ที่เหลือชุดเดิมทั้งหมด ส่วนทาง ปารีสฯ ที่วันนี้ทาง หลุยส์ เอ็นริเก้ พเทรนเนอร์ของทีมพักตัวหลักเอาไว้ในเกมลีกสุดสัปดาห์ เกมนี้ก็ส่งลงสนามาทั้งหมด เป็นทาง ควิช่า ควาลัตสเคเลีย,อุสมาน เดมเบเล่,แบรดลี่ย์ บาร์โคล่า ลงสนามเล่นเป็นสามตัวรุกสุดอันตราย ส่วนที่เหลือก็เป็นนักเตะชุดใหญลงแบบฟูลทีม

เกมนี้เริ่มต้นทางทัพ หงส์แดง นั้นเดินหน้าเพรสซิ่งใส่ในสไตล์ตัวเองทันที แต่ว่าทางทีมเยือนอย่าง เปแอสเช เองนั้นก็ไม่ได้ลนหรือว่าอะไร กลับสามารถต่อบอดแกะเพรสของทีมเจ้าบ้านได้ แม้ว่าโอกาสในช่วงแรกจะเป็นของ ลิเวอร์พูล ที่ทาง โม ซาล่าห์ ได้ปั่นด้วยซ้ายจากในเขตโทษด้านขวา แต่ก็ยังไม่เข้ากรอบ 

หลังจากนั้น ปารีสฯ เองก็เริ่มตั้งเกมขึ้นมาได้เรื่อยๆ ก่อนที่ในนาทีที่ 12 จะมาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 เมื่อทางทีมเยือนนั้นตัดบอลได้ก่อนที่จะเข้าทำอย่างรวดเร็ว เป็นทาง แบรดลี่ย์ บาร์โคลา ที่ได้บอลจากขึ้นมาด้านขวา ก่อนที่จะดึงจังหวะจ่ายบอลเข้าช่องให้ทาง อุสมาน เดมเบเล่ แต่เป็นทาง อิบราฮิมม่า โกนาเต้ กองหลัง ลิเวอร์พูล ทิ้งตัวสกัดเอาไว้ แต่เดชะบุญ มันเป็นจังหวะเดียวกับที่ อลิซอน เบคเกอร์ นายทวารของทีมนั้นออกมาตัดบอลพอดี เลยทำให้บอลนั้นย้อนตัวนายทวารชาว บราซิล และเป็นทาง เดมเบเล่ ที่วิ่งมาพอดียิงเข้าไป ทำให้ทีมเยือนออกนำ 1-0 ทันที

จากนั้นทางทัพ หงส์แดง ก็ยังคงเร่งเครื่องสไตล์เดิม และพยายามที่จะหาจังหวะตีเสมอให้ได้ แต่กไม่เป็นผล จบครึ่งแรกทีมเยือนออกนำ 1-0

ลิเวอร์พูล ครึ่งหลังลุยใส่ไม่สนหน้าไหน

เมื่อเริ่มครึ่งหลังทางทีมเจ้าบ้านที่หวังจะปิดฉากไม่ให้ยืดเยื้อนั้น ก็เริ่มบุกเข้าใส่แบบไม่หยุด และก็สามารถส่งลูกบอลเข้าไปตุงตาข่ายจนได้ในนาทีที่ 53 แต่ว่าก็โดนจับว่าเป็นลูกล้ำหน้าไปก่อนแล้ว ก่อนที่ในนาทีที่ 58 จะมามีโอกาสได้ประตูตีเสมอ จากลูกเตะมุมที่ หลุยส์ ดิอาซ กองหน้า โคลัมเบีย ของทีมนั้นขึ้นโหม่งบอลตกลงพื้น แต่ว่าทาง จิอันลุยจิ ดนนารุมม่า นายทวารทีมเยือนนั้นจะโชว์โหด กระโดปัดแบบสุดเหยียดออกมาได้

จากนั้นนาทีที่ 62 ก็มามีโอกาสจากลูกเตะมุมอีกครั้งนึง คราวนี้เป็นทาง โม ซาล่าห์ ที่ได้ยิงตรงเสาสองคนเดียว แต่ว่ายังไปติดทาง ควิช่า ควาลัตสเคเลีย ที่คุมเส้นอยู่เคลียร์ออกมาได้ จากนั้นแม้ว่าทางเจ้าบ้านนั้นจะพยายามรุกต่อ แต่ด้วยสภาพร่างกายที่ล้านั้น ทำให้เกมรุกไม่ต่อเนื่อง จนหมดเวลา 90 นาที รวมผลสองนัดเสมอกัน 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไป แต่ก็ไม่มีใครทำประตูเพิ่มได้ จนต้องดวลกันลูกที่จุดโทษ และเป็นทางทีมเยือนที่ยิงได้แม่นกว่าเอาชนะไปได้ 4-1 ทำให้ทีม ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เข้ารอบต่อไป ส่วน ลิเวอร์พูล ตกรอบคารัง

เกมนี้ทางสื่ออย่าง dooball66 ได้เผยว่าทาง อาร์เน่ สล็อธ กุนซือทีมเจ้าบ้านนั้น ชมลูกทีมว่าเล่นได้ดีแล้ว เพียงแต่ว่าอาจจะมีอาการล้าให้เห็น เลยทำให้ต้องตกรอบไป แถมวัน อาทิตย์ ยังมีศึกใหญ่นัดชิงชนะเลิศบอลถ้วย คาราบาว คัพ ที่เจอกับทีม นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด รออยู่อีกด้วย